ความเสี่ยงหลัก5 ข้อในการลงทุนตราสารหนี้ การลงทุน ไม่ว่าจะลงทุนในหุ้นหรือในตราสารหนี้ก็มีความเสี่ยงแต่เสี่ยงคนละแบบ ถ้าอยากได้ผลตอบแทนสูง นอกจากจะลงทุนในจำนวนมากขึ้นแล้วยังลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงขึ้นด้วยมูลค่าการลงทุนเท่าเดิม ก็ทำให้มีโอกาสได้ผลตอบแทนสูงขึ้นเป็นไปตามหลักการลงทุน High risk high returnความเสี่ยงจากการลงทุนในตราสารหนี้มีหลากหลาย แต่ความเสี่ยงบางอย่างก็ป้องกันและหลีกเลี่ยงได้ โดยความเสี่ยงหลักๆจากการลงทุนในตราสารหนี้มีด้วยกัน 5ด้าน คือ 1. ความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ (Credit/Default Risk)ความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ เป็นความเสี่ยงที่บริษัทผู้ออกตราสารหนี้เกิดวิกฤติ ที่ทำให้ไม่สามารถชำระดอกเบี้ยหรือเงินต้นคืนได้ ทำให้นักลงทุนอาจจะไม่ได้รับเงินคือ หรือได้รับไม่เต็มจำนวนความเสี่ยงนี้ถือเป็นความเสี่ยงหลักของการลงทุนในตราสารหนี้ 2. ความเสี่ยงจากสภาพคล่อง (Liquidity Risk) เกิดขึ้นจากการที่ตราสารหนี้นั้นไม่มีสภาพคล่องในตลาดในกรณีที่นักลงทุนต้องการจะขายตราสารหนี้ ก็อาจขายไม่ได้ในเวลาที่ต้องการ หรือขายไม่ได้ ณ ราคาที่ต้องการ เช่น ราคาที่ขายจริงต่ำกว่าราคาที่ควรจะเป็น หากนักลงทุนมีความประสงค์ที่จะถือตราสารหนี้ไปจนครบกำหนด ก็ไม่ต้องกังวลกับความเสี่ยงนี้ 3.
หลายคนอยากเริ่มต้นลงทุนให้เงินงอกเงย แต่พอเห็นตัวเลขในบัญชีปุ๊บ ก็ต้องเจอกับปัญหาด่านแรก นั่นก็คือ 'ทุนน้อย' หรือ 'เงินไม่พอ'... นั่นเอง จนท้อใจเลิกคิดลงทุนไปเลยก็มี จริง ๆ แล้วการจะเริ่มต้นลงทุน มีด้วยกันหลายวิธี จะเป็นการออมเงินจนได้เป็นเงินก้อนก่อนนำไปลงทุน หรือจะใช้เงินก้อนในการลงทุนตั้งแต่ต้นเลยก็ได้ สำหรับคนที่มีเงินน้อย อย่าเพิ่งถอดใจ!! การลงทุนที่ชาญฉลาดไม่จำเป็นต้องอาศัยต้นทุนที่มีจำนวนมากเลย แต่หากเรามีแผนการและเวลาศึกษา ก็จะสามารถทำให้เงินที่ไม่มากนี้ งอกเงยจนกลายเป็นเงินก้อนใหญ่ได้เลยทีเดียว มาดู 4 วิธีง่าย ๆ ของการลงทุนแบบความเสี่ยงต่ำ ต้นทุนน้อย ที่ใคร ๆ ก็สามารถทำได้ มาเริ่มตั้งต้นลงทุนกันเลย! 1. เริ่มต้นเก็บเงิน Step แรกด้วยวิธีฝากประจำ เงินไม่มาก ก็สามารถเลือกลงทุนง่าย ๆ และได้ผลตอบแทนแบบแน่นอนด้วยการออมเงิน เป็นแนวคิดที่เหมือนกับการหยอดกระปุกหมูน้อยตอนเด็ก ๆ นั่นคือการค่อย ๆ เก็บเงินอย่างสม่ำเสมอ ลองคิดดูเล่น ๆ ว่าเก็บเงินเดือนละ 1, 000 บาท อาจจะดูเป็นเงินน้อย แต่ในหนึ่งปี คุณก็จะได้เงินราว ๆ 12, 000 บาทแล้ว! เราลงทุนโดยการออมเงินได้ จากแนวคิดหยอดกระปุกหมูเป็นประจำทุกเดือน เปลี่ยนเป็นการเปิดบัญชีฝากประจำซึ่งดอกเบี้ยจะสูงกว่าการฝากออมทรัพย์ปกติ และเมื่อฝากประจำครบกำหนดสามารถถอนเงินออกมาพร้อมกับดอกเบี้ย เงินต้นปลอดภัยเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือดอกเบี้ยที่มากกว่าการฝากบัญชีออมทรัพย์ เพียงเริ่มออมกับ เงินฝากประจำปลอดภาษี 24 เดือน และ 36 เดือน บัญชีเงินฝากประจำปลอดภาษี สำหรับบุคคลธรรมดา ที่ฝากขั้นต่ำเพียง 1, 000 บาทต่อเดือน แล้วดอกเบี้ยยังได้รับการยกเว้นภาษีอีกด้วย 2.
ก่อนอายุเท่านี้ คุณควรลงทุนอะไรบ้าง รวมทริคสร้างเงินล้านด้วยวิธีการลงทุนเดือนละ 5, 000 บาท ในวันที่เราพร้อม บ้าน vs คอนโด vs รถ เราควรลงทุนกับอะไรก่อนดี? อสังหาฯ พารวย เปิดใจให้กับการลงทุนอสังหาฯ ความคุ้มค่าที่ต้องรู้จักแลก! เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร...?
ผลประกอบการบริษัท ภาวะอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง และภาวะเศรษฐกิจ เป็นปัจจัยที่สำคัญที่จะกำหนดผลตอบแทนการลงทุนว่าจะอยู่ในระดับสูงหรือต่ำ รวมทั้งสถานการณ์การซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ หากภาวะเศรษฐกิจขยายตัวดี และบริษัทมีผลประกอบการที่ดี ผู้ลงทุนย่อมีโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้น ในทางตรงข้ามหากภาวะเศรษฐกิจซบเซา และบริษัทมีผลกำไรลดลงผลตอบแทนที่ผู้ลงทุนจะได้รับก็มีแนวโน้มที่จะลดลงเช่นกัน 2. ความไม่แน่นอนของอัตราผลตอบแทนที่จะได้รับ กล่าวคือ ผู้ลงทุนอาจขายหุ้นได้ในราคาที่ต่ำกว่าที่คาดไว้ หรือบริษัทอาจจ่ายเงินปันผลในระดับต่ำหรือไม่จ่ายเงินปันผลเลย ซึ่งการที่ผู้ลงทุนได้รับอัตราผลตอบแทนต่ำกว่าอัตราผลตอบแทนที่คาดหวัง มีสาเหตุมาจากการที่กระแสเงินสดสุทธืของบริษัทผู้ออกหุ้นมีความไม่แน่นอน ทำให้เกิดความไม่แน่นอนต่อผลตอบแทนของผู้ถือหุ้นของบริษัทนั้นด้วย สาเหตุที่ทำให้เกิดความไม่แน่นอนของกระแสเงินสดรับสุทธิของกิจการ ได้แก่ ความเสี่ยงทางธุรกิจ (Business Risk) และความเสี่ยงทางการเงิน (Financial Risk) ของบริษัทผู้ออกหุ้น 3.
การนำเงินฝากออมทรัพย์บางส่วน ไปพักไว้ในกองทุนประเภทที่ลงทุนในตลาดเงินหรือตราสารหนี้ระยะสั้นก็เป็นหนึ่งในวิธียอดฮิตของนักลงทุนมือใหม่กันมากขึ้นนะครับ เพราะเป็นการ "ออมเงิน" ระยะสั้นก่อนที่จะลงทุน นอกจากความเสี่ยงที่ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับกองทุนอสังหาฯ หรือกองทุนหุ้นแล้ว ยังสามารถทำการซื้อขายได้อย่างสะดวกกับทางธนาคารได้ง่ายๆ อีกด้วย ส่วนใหญ่แล้วเวลาใครมาถามผมว่าจะ "ออมเงิน" ระยะสั้นก่อนลงทุน เราควรพักเงินไว้ที่กองทุนไหนดี?? ผมก็จะแนะนำว่าลองดูว่าเราใช้เงิน ฝากออมทรัพย์ กับธนาคารไหนเป็นตัวหลักก็ลองดูกองทุนตลาดเงินหรือตราสารหนี้ภายใต้ บลจ. ในเครือธนาคารนั้นๆ นะครับ แต่ถ้าใครอยากจะ advance กว่านั้น ก็ลองดูกองทุนประเภทเดียวกันที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า หรือไม่ก็เพิ่มความเสี่ยงที่เรายอมรับได้เพื่อหาโอกาสสร้างผลตอบแทนที่มากขึ้น สำหรับในบทความนี้ผมจะลองยกกองทุนที่มีความเสี่ยงต่ำที่สุดของแต่ละที่นะครับ แน่นอนว่าแต่ละที่จะมีนโยบายและ Style ที่แตกต่างกัน แต่ยังไงก็อยู่ในระดับความเสี่ยงเดียวกัน มาดูกันว่าแต่ละบลจ.
ผู้ให้บริการ Fundsupermart หรือถ้ามีเพื่อนเป็นตัวแทนขายกองทุนอิสระก็สอบถามเขาได้เช่นกันนะครับ อ้างอิงข้อมูล: ราคา NAV: ระดับความเสี่ยง ข้อมูลการซื้อขาย
เทรนด์การลงทุนปี 2021 ควรลงทุนอะไรดี? ทองคำ หุ้น อสังหาฯ