เมื่อไม่กี่วันก่อน ผู้เขียนได้มีโอกาสเข้าร่วมการประชุมระดมความคิดเห็นต่อร่างกรอบแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ. ศ. 2566-2570) ในกลุ่มนักวิชาการและสถาบันการศึกษา โดยแผนฉบับที่ 13 นี้ประกอบไปด้วยหลายหมุดหมายที่มุ่งเป้าให้เศรษฐกิจไทยสามารถปรับตัวได้ท่ามกลางความท้าทายใหม่ๆ หนึ่งในหมุดหมายสำคัญคือ การมุ่งให้ไทยเป็นประตูการค้าการลงทุนและยุทธศาสตร์ทางโลจิสติกส์ที่สำคัญของภูมิภาค ทำให้ผู้เขียนนึกย้อนไปถึงการพูดคุยร่วมกันระหว่างผู้ประกอบการ นักวิชาการ และนักวิเคราะห์ในงานเสวนา "Industry Transformation" ที่จัดโดยสถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ ธนาคารแห่งประเทศไทย และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว. )
68 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า) โดยเมื่อดูในประเภทธุรกิจย่อย พบว่า จำนวนมากกว่าครึ่งหนึ่ง (สัดส่วนร้อยละ 51. 2) เป็น "ธุรกิจการขนส่งและขนถ่ายสินค้า" เติบโตร้อยละ 26. 4 รองลงมา คือ "ธุรกิจการขนส่งสินค้าอื่นๆ ทางถนน" ซึ่งรวมการขนส่งพัสดุ การขนย้ายเฟอร์นิเจอร์ การขนส่งสินค้าแห้ง (สัดส่วนร้อยละ 13. 9) เติบโตร้อยละ 25. 8 และอีกธุรกิจที่มีการเติบโตสูง คือ "ธุรกิจรับส่งเอกสาร/สิ่งของ" ที่มีการเติบโตสูงถึงร้อยละ 201. 1 โดยคาดว่ามีปัจจัยจากพฤติกรรมการรักษาระยะห่างในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งลดการเคลื่อนที่ของบุคคล และผลักดันให้เกิดการเคลื่อนที่ของสินค้าทั้งห่วงโซ่เพิ่มขึ้น สังเกตได้จากการเพิ่มขึ้นของธุรกิจในหมวดการขนส่งทางบก ส่วนใหญ่เป็นการขนส่งสินค้าระหว่างธุรกิจกับธุรกิจ ( Business-to-Business: B2B) และธุรกิจประเภทไปรษณีย์และการรับส่งพัสดุภัณฑ์ ที่เป็นการขนส่งสินค้าระหว่างผู้ค้ากับผู้บริโภค (Business-to-Customer: B2C) รวมถึงธุรกิจขนส่งสินค้าขั้นสุดท้าย (Last-Mile Delivery) ที่มีสัดส่วนและ การเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ผอ. กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของ มูลค่าการค้าระหว่างประเทศในปี 2564 มีมูลค่า 17. 09 ล้านล้านบาท ไทยพึ่งพา การขนส่งทางเรือ เป็นหลัก คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 67.
โปรดเลือกระดับการศึกษา ใส่คำค้นหา เลือกจากรายการหรือกดค้นหา เริ่มค้นหาตอนนี้ เลือกจากรายชื่อหรือกดค้นหา โปรดพิมพ์ และเลือกสถาบัน พิมพ์ตัวอักษร 3 ตัวของชื่อมหาวิทยาลัย และเลือกจากลิสต์ กรอกชื่อมหาวิทยาลัย หรือโรงเรียน และเลือกจากลิสต์
1939 สำนักงานคณะกรรมการ อาหารและยาของสหรัฐอเมริกาประกาศให้ยาจำพวกแอมเฟตามีนเป็นยาควบคุมซึ่งต้องมีใบสั่งยาจากแพทย์จึงจะซื้อได้ ทำให้การใช้ยาชนิดนี้ลดน้อยลงจากท้องตลาด และเริ่มมีการผลิตและจำหน่ายผิดกฎหมายอย่างแพร่หลาย และได้เข้ามาแพร่ระบาดใน ประเทศไทย ในช่วงปี ค.
ในช่วงปี พ. ศ. 2564 ที่ผ่านมา ตลาดโลจิสติกส์มีเรื่องเกิดขึ้นมากมาย ตั้งแต่การมียูนิคอร์นเจ้าแรกในประเทศไทย ไปจนถึงการที่ขนส่งได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้พัสดุค้างคลังสินค้าเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้เกิดเกิดความล่าช้าในการส่งพัสดุ หรือแย่ที่สุดก็คือการที่บริษัทขนส่งที่มีชื่อเสียงต้องปิดตัวลง เป็นต้น ยิ่งในยุคที่การแข่งขันสูง บริษัทขนส่งจำเป็นต้องรีบปรับตัว เพื่อสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ไม่ได้คำนึงถึงแค่เรื่องของราคาค่าส่งเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป และต่อไปนี้คือ 5 เทรนด์สำคัญที่เราจะได้เห็นในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ประเทศไทยในปี 2565 นี้ครับ 1.
จับชีพจรโลจิสติกส์ไทย สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า ( สนค. ) เปิดเผยสถานการณ์ธุรกิจโลจิสติกส์ไทยในปี 2564 โดยในปีที่ผ่านมา ธุรกิจโลจิสติกส์มีการฟื้นตัวดี มีจำนวนกิจการเปิดใหม่ในกลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์เพิ่มขึ้นร้อยละ 34. 1 ขณะที่อัตราการปิดกิจการลดลงร้อยละ 5. 7 และมูลค่าการค้าระหว่างประเทศแยกตามประเภทการขนส่ง มีการเติบโตทุกประเภท ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (ผอ. สนค. ) เปิดเผยว่า ณ สิ้นปี 2564 มีจำนวนธุรกิจโลจิสติกส์ในประเทศไทย ที่จดทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า 36, 733 ราย โดยเป็นธุรกิจโลจิสติกส์ที่เปิดกิจการใหม่จำนวน 4, 411 ราย เติบโตร้อยละ 34. 1 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และ มีมูลค่าการลงทุนจากต่างประเทศในธุรกิจโลจิสติกส์ 48, 743. 73 ล้านบาท หรือร้อยละ 10. 2 ของการลงทุน ในกลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์ทั้งหมด โดยกลุ่มธุรกิจที่มีจำนวนการเปิดกิจการมากที่สุด 3 อันดับแรก คือ (1) การอำนวย ความสะดวก ของท่าเรือ (2) การขนส่งทางระบบท่อลำเลียง และ (3) ตัวแทนดำเนินพิธีการศุลกากร มีสัดส่วน ร้อยละ 14. 2 11. 7 และ 11. 4 ของจำนวนธุรกิจโลจิสติกส์ที่เปิดใหม่ทั้งหมด ตามลำดับ ธุรกิจการขนส่งทางบกและธุรกิจรับส่งพัสดุ มีการเติบโตสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด (มีจำนวนธุรกิจเปิดใหม่ รวม 3, 666 ราย เติบโตร้อยละ 34.
พาณิชย์) เพื่อแก้ไขปัญหาด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ได้อย่างทันท่วงที ผู้ที่สนใจข้อมูลสำคัญด้านธุรกิจโลจิสติกส์ สามารถติดตามผ่านช่องทางเว็บไซด์ คิดค้า สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า 8 กุมภาพันธ์ 2565 ดาวน์โหลดอินโฟกราฟิก คลิกที่นี่